วันที่นำเข้าข้อมูล 4 พ.ย. 2564
วันที่ปรับปรุงข้อมูล 27 พ.ย. 2565
แนะนำกงสุลใหญ่ ณ นครซิดนีย์
นางหัทยา คูสกุล จบการศึกษาจากภาควิชาความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ คณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และปริญญาโทสาขา International Policy Studies จาก Monterey Institute of International Studies แคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา
เข้ารับราชการในกระทรวงการต่างประเทศในปี 2537 ที่กรมสารนิเทศ จากนั้นย้ายไปปฏิบัติราชการที่กรมเอเชียตะวันออก ก่อนออกประจำการในตำแหน่งเลขานุการเอก ประจำสถานเอกอัครราชทูต ณ เวียงจันทน์ กลับเข้ามาปฏิบัติหน้าที่ในกระทรวงฯ ที่สำนักบริหารการคลังและสำนักนโยบายและแผน ก่อนออกไปประจำการในตำแหน่งรองกงสุลใหญ่ ประจำสถานกงสุลใหญ่ ณ นครเซี่ยงไฮ้ และสถานกงสุลใหญ่ ณ เมืองชิงต่าว กลับมาปฏิบัติหน้าที่ในกระทรวงฯ ตำแหน่งเลขานุการกรมอาเซียน ในช่วงที่ไทยเป็นประธานอาเซียนในปี 2562 ต่อมาย้ายไปดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการสำนักนโยบายและแผน ก่อนได้รับแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งกงสุลใหญ่ ณ นครซิดนีย์ ในเดือนสิงหาคม 2564
ด้านครอบครัว สมรสกับนายวิบูลย์ คูสกุล อดีตเอกอัครราชทูตประจำราชอาณาจักรฮัชไมต์จอร์แดน สปป. ลาว และสาธารณรัฐประชาชนจีน มีบุตรธิดา 2 คน บุตรสาวรับราชการที่กระทรวงการต่างประเทศ บุตรชายศึกษาอยู่ที่คณะแพทยศาสตร์และการสาธารณสุข ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์
*****************************************
กงสุลใหญ่ ทักทายประชาชน
ขอกล่าวสวัสดีพี่น้องชาวไทยทุกท่านในโอกาสที่เดินทางมารับหน้าที่กงสุลใหญ่ ณ นครซิดนีย์คนใหม่ค่ะ ดิฉันได้เริ่มเข้ารับหน้าที่ในช่วงต้นเดือนพฤศจิกายน 2564 ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่รัฐนิวเซาท์เวลส์ได้ประกาศผ่อนคลายมาตรการป้องกันโควิด-19 ในพื้นที่ สถานกงสุลใหญ่ฯ ของเราจึงพร้อมกลับมาเปิดให้บริการด้านการกงสุลได้อย่างเต็มเวลาเช่นเดิม และเป็นที่น่ายินดีว่า ตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน 2564 เป็นต้นไป รัฐบาลไทยและรัฐบาลออสเตรเลียได้ประกาศเปิดการเดินทางระหว่างประเทศในห้วงเวลาเดียวกัน ทำให้ชาวไทย ที่ประสงค์จะเดินทางกลับไปเยี่ยมครอบครัวที่เมืองไทยจะสามารถเดินทางกลับบ้านได้อย่างสะดวกมากขึ้น และหวังว่าในระยะต่อไปอีกไม่นาน นักเรียนนักศึกษาไทยก็จะสามารถเดินทางกลับมาศึกษาในออสเตรเลียได้อีกครั้ง
ช่วงเวลาที่ผ่านมาเป็นช่วงเวลาแห่งความยากลำบากสำหรับทุกฝ่าย การแพร่ระบาดของโควิด-19 ได้ส่ง ผลกระทบอย่างมากต่อวิถีชีวิตของผู้คนในทุกภาคส่วน แต่ชุมชนไทยในนครซิดนีย์และรัฐนิวเซาท์เวลส์ก็ได้แสดงน้ำใจให้ความช่วยเหลือซึ่งกันและกันอย่างเต็มที่ ซึ่งดิฉันหวังเป็นอย่างยิ่งว่า หลังจากนี้ชุมชนไทยของเราก็จะร่วมมือร่วมใจกันเตรียมความพร้อมปรับสู่ชีวิตวิถีใหม่ในระยะต่อไปได้อย่างเข้มแข็ง
เป็นที่น่าดีใจว่า การที่ชุมชนในท้องถิ่นให้ความร่วมมือเข้ารับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 จนรัฐนิวเซาท์เวลส์มีอัตราผู้รับการฉีดวัคซีนสูงที่สุดแห่งหนึ่งในโลก ทำให้ทุกคนสามารถกลับมาใช้ชีวิตอย่างปกติได้ในไม่ช้า อย่างไรก็ดี ทุกฝ่ายก็ยังควรจะต้องใช้ความระมัดระวังดูแลสุขภาพของตนเองอย่างสม่ำเสมอ สถานกงสุลใหญ่ฯ จึงขอให้ชุมชนไทยของเราให้ความร่วมมือปฏิบัติตามมาตรการและคำแนะนำของทางการท้องถิ่นในการเปิดเมืองอย่างปลอดภัย เพื่อดูแลให้บุคคลในครอบครัว เพื่อนร่วมงาน และผู้มารับบริการจากธุรกิจของเราปลอดภัยจากโควิด-19 อย่างเต็มที่ต่อไป
สำหรับดิฉันเอง การมารับตำแหน่งกงสุลใหญ่ ณ นครซิดนีย์ นับว่าเป็นภารกิจที่มีความสำคัญอย่างยิ่ง เนื่องจากนครซิดนีย์และรัฐนิวเซาท์เวลส์เป็นพื้นที่ที่มีชุมชนคนไทยอาศัยอยู่จำนวนมากเป็นลำดับต้น ๆ แห่งหนึ่ง ในโลก ดังนั้น ดิฉันจึงมีความตั้งใจที่จะดูแลให้สถานกงสุลใหญ่ฯ ของเราสามารถให้บริการแก่ประชาชนไทยได้อย่างเต็มที่ โดยเฉพาะการให้บริการกงสุล ไม่ว่าจะเป็นการทำหนังสือเดินทาง บัตรประชาชน สูติบัตร สมรส ฯลฯ ตลอดจนการให้ความช่วยเหลือคนไทยที่ประสบความเดือดร้อนตามขอบเขตและอำนาจของสถานกงสุลใหญ่ฯ รวมทั้งจะประสานงานร่วมมือกันอย่างใกล้ชิดกับสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงแคนเบอร์รา หน่วยงานทีมประเทศไทย และภาคส่วนต่าง ๆ เพื่อส่งเสริมความร่วมมือและความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดระหว่างไทยกับออสเตรเลียให้แนบแน่นต่อไป เนื่องจากออสเตรเลียเป็นประเทศหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ที่มีความสำคัญต่อ ประเทศไทย เรามีความสัมพันธ์อย่างใกล้ชิดในทุกมิติ ทั้งด้านการเมือง เศรษฐกิจ สังคม วัฒนธรรม รวมทั้งความสัมพันธ์ระหว่างประชาชนของทั้งสองประเทศ
สุดท้ายนี้ ดิฉันหวังว่าจะได้มีโอกาสพบกับทุกท่านในโอกาสต่าง ๆ หรือหากได้บังเอิญพบกันที่ไหน ก็สามารถเข้ามาแนะนำตัวหรือทักทายกันได้เลยนะคะ
หัทยา คูสกุล
กงสุลใหญ่ ณ นครซิดนีย์
22 ต.ค. 2564
30 ต.ค. 2564
สอบถามทั่วไป
- ทาง Line สแกน QR code ... Official LINE ID: @thaiconsulatesyd
-โทรศัพท์ (02) 9241 2542
สำหรับคนไทย เฉพาะเหตุฉุกเฉินเท่านั้น (โดนทำร้าย ได้รับบาดเจ็บ การเสียชีวิต ตกเครื่อง เหตุตกทุกข์)
*โทรหรือส่งข้อความที่เบอร์ ๐๔๑๑ ๔๒๔ ๓๐๓
-โทร 000 แจ้งเหตุร้ายแรงกับตำรวจออสเตรเลีย